Powered By Blogger

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Labview เบื้องต้น กับวิธีการเขียน ง่ายๆ ชิวๆ....

        ออกตัวก่อนเลยนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เนื่องจากเราก็มือใหม่ และไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ และเขียนออกมาตามความรู้สึก และความรู้ที่มีมา ฮ่าๆๆๆ
     
    จากบทความที่แล้ว เราก็ได้รู้จักกับ Labview ไปบ้างแล้วนะคะ  วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับมันมากขึ้นกว่าเดิม อีกนิดๆหน่อย มือใหม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้น้าา
ก่อนอื่นเรามาทำความรุ้จักกับมันให้มากขึ้นก่อนจะดีกว่า บทความที่แล้วจะเร่งรัดไปหน่อย ฮ่าๆๆ เอาใหม่นะ  ก่อนอื่นเรามารู้จักกับหน้าตาของ labview ก่อนเลยละกัน โปรแกรมจะมี 2 หน้าต่าง
หน้าต่างแรกคือ Front Panel เป็นหน้าแสดงผล หรือ เราจะเรียกกันว่า User interface และ หน้าต่างที่สองคือ Block Diagram ใช้สำหรับเขียน โปรแกรมวงโค้ดต่างๆลงไป นั่นเอง เพื่อแสดงผลที่หน้า Front Panel
 
รูปที่ 1 

      มีหน้าต่างอีกหนึ่งตัวที่เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดสำหรับเราอีก หนึ่ง ตัวคือ Navigation Window
จะช่วยเป็นได์ชี้ทางเรา เมื่อเราอยากจะดู โค้ดที่เราวางไว้ ได้ง่ายขึ้นโดยเลื่อนเมาส์ลากจากหน้าต่างเล็กๆตะวนี้ได้เลย เนื่องจาก labview ไม่สามารถ ย่อหรือขยายหรือซูม หน้าต่างได้นั่นเอง จึงต้องมีไกด์ตัวน้อยนำทางเราเพื่อความสะดวก และรวดเร็ว เมื่อเราเขียนโปรแกรมเยอะๆ  จะได้มองหาโค้ดที่ต้งการได้ง่ายขึ้น  และโค้ดที่เราเห็นกันนี้ จะแสดงที่หน้า Front เป็นรูปภาพ ดังภาพที่ 3 เลยจ้า

** ขออนุญาตใช้ภาพใหญ่พิเศษ เดี๋ยวมองไม่เห็นเนาะ**
รูปที่ 2
     เราจะมารัดกันอีกรอบ ฮ่าๆๆ เครื่องมือที่เราใช้ เพื่อช่วย ลงสี หรือลากเส้น เพื่อเชื่อมโค้ดแต่ละตัว หรือ พิมพ์ข้อความ และอื่นๆ เราจะใช้ Tool Pallete ดังนี้ ที่วงกลมสีแดงไว้
และภาพโดยรวม จากอุปกรณ์ที่เราใช้ได้ มีเยอะมาก เราจะดึงมาให้ดูเพียงเล็กน้อยเท่านั้นว่า อุปกรณ์ที่เราสามารถนำมาวางหน้า Front มีอะไรบ้าง คร่าวๆ ก็ประมาณนี้เลย เราเรียกมันว่า รูปภาพ มีอีกเพียบเลยนะ

รูปที่ 3

มะหลังจากที่เรารู้จัก labview ไปบ้างโดยคร่าวๆแล้วนั้น  
ลอง มาดูวิธีการเขียนกันเลยดีกว่า อ้อ.....มีอุปกรณ์อีกอย่างนึงที่เราต้องรู้จักและใช้มันเป็น เพื่อนำไปต่อยอดในอนาคตต่อไป มาดูกัน

รูปที่ 4

ตามเมาส์เลยนะคะ คลิกขาวที่หน้า Block diagram ซะก่อน แล้วจะได้เครื่องมือสี่เหลี่ยมเล็กๆขึ้นมา แล้วกด สัญลักษณ์ เพิ่ม/ลด ด้านล่างสุด เราจะได้หน้าเครื่องมือเยอะๆแบบนี้ เรียกมันว่าหน้า Function คลิกที่ Programming เลือก Structures จะได้อุปกรณ์ชนิดนึงออกมาเพียบเลย ตัวนี้สำคัญมาก และจำเป็นต้องใช้เป็นอย่างมาก เราเรียกมันว่า Loop (ลูป)
ขออนุญาตไม่อธิบายรายละเอียดได้มั๊ย มันยาวมาก เอาเป็นว่า ที่สำคัญๆมี For loop ,While loop , Case strusture ,Event Structure และ Flat Sequence สำหรับมือเก่าๆเค้าก็คงใช้มากกว่านี้แหละ แต่สำหรับเรา เราใช่เท่านี้ก็เยอะแล้ว ฮ่าๆๆ

**การจะเขียนโปรแรกมชนิดนี้เราแนะนำให้ซื้อหนังสือ หรือหาคู่มือมาเป็นตัวช่วยเพราะเค้าจะบอกรายละเอียดในการใช้อุปกรณ์ให้อย่างครบถ้วน**

    มะเรามาเริ่มเขียนโค้ดกันเลยดีกว่า ว่า เจ้า labview ทำอะไรได้บ้าง
รูปที่ 5


อ้ออ  เราสามารถ จัดหน้าต่างสองตัวนี้ให้สามารถอยุ่คู่กันแบบนี้ได้เลยนะคะ ทำงานสะดวกมากขึ้น แต่เราชอบจอใหญ่ๆ ชัดดีฮ่าๆๆ
อธิบายโค้ตัวนะนี้คะ 
    เราต้องการให้ลูปวนไปเรื่อยๆ คือกรอบหนาๆใหญ่กรอบนอก เรียกว่า while loop จนกว่าเราจะสั่งหยุดโดยกดปุ่ม cancel ที่หน้า Front หน้าต่างจะกลับมาสู่โหมดปกติ ในการเขียนโค้ดเพิ่มเติมได้  
     เราใช้คำสั่งแรนดอม ตัวเลขจะมีค่าแค่ 0-1 ดูชื่อโค้ดตามตัวเลยนะคะ ตัวแรกให้บวกค่าเข้าไปอีก1 ตัวที่สองลบค่าลงมา-1 โดยใช้อุปกรณ์ numeric ผลลัพธ์ที่ออกมา จะเป็นโค้ดตัวสีฟ้า คือ X+1 และ number 0-1

จากนั้นเอาค่าสองตัวมาเปรียบเทียบกันโดนใช้อุปกรณ์ comparison ผลลัพธ์คือโค้ดตัวเขียว X>=y? ถ้าใช่ไฟสีเขียวที่หน้า Front จะติด ถ้าไม่ใช่จะดับ
จากนั้นนำค่าที่ออกมาไปเข้า Case structure ความหมายคือ X>=y? ถ้าใช้ ให้แสดงคำว่า True ที่ String ตัวสีชมพู  ตัวนี้เราจะเรียกมันว่า indicator เหมือนตัวเอาท์พุดแหละ ถ้าตัวอินพุดเราจะเรียกมันว่า Control 
    เครื่องหมานตาชั่งคือ Wait Until Next ms Multiple มีไว้หน่วงเวลานะ หน่วยคือ ms
*กรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆสีชมพูเราเรียกมันว่า string constant ใช้ สำหรับโค้ดที่เป็น String คือข้อความเท่านั้น และต้องส่งเอาท์พุดเป็น ข้อความเช่นกัน  ถ้าเป็นตัวเลข ก็จะใช้กรอบสี่เหลี่ยมสีฟ้า นั่นเอง รายละเอียดมันเยอะนะคะ ต้องศึกษาจากหนังสือเพิ่มเติมน้าาา

รูปที่ 6

มาดูโค้ดตัวต่อไปกัน ขออธิบายแทนภาพละกันน้า
**บอกไว้ก่อนว่า ในโค้ด เราแค่ loop เดียว ที่เห็นสองloop เราก๊อปมาวางให้ดูเฉยๆ นะคะ**
    เริ่มด้วย เราใช้ while loop เหมือนเดิมนะ แต่เพิ่ม Event structure มา 
โค้ดตัวเขียว และสีชมพู สองตัว ใช้ภาพอธิบายนะ อิอิ 
     เราใช้ Case structure เพราะเราต้องการให้โปรแรกมแสดงค่าเมื่อ..... เราใส่ข้อมูลลงไปที่ String ในหน้า Front นะคะ ดูภาพนะ จากนั้น เราต้องกด OK เพื่อให้ข้อความที่เราใส่ลงไป มาแสดงที่ String2 และ เมื่อกด Cancel ให้ลบความความที่ sting2 ออกไป เราสามารถสลับกันได้นะ จะลบอันไหน เพิ่มอันไหน ทำำได้หมดเลย ต้องลองเล่นดูน้า 
     เมื่อเราเอา  Event struture มาวาง คลิกขวาที่ตัวมัน เลือก Add Event case เพื่อเพิ่มคำสั่งเข้าไป ดังรูปข้างล่างนี้

รูปที่ 7

เมื่อเจอหน้าต่างนี้ ให้เลือก control ที่ต้องการ  เราต้องการให้กด OK แล้วแสดงผลลัพธ์ ก็ เลือก OK buttom @ Event sources และเลือก Mouse up @ Event แล้ว ok สำหรับ โค้ดของ Cancel ก็ทำเช่นนี้เช่นกัน เราก็จะได้หน้า Event มาสองหน้าคือ [0]&[1] ดังภาพที่ 6
สำหรับหน้า Cancel bottom เราให้แสดงผลเมื่อกด cancel แล้ว ให้ลบข้อความที่ String2 ออกไป ในโค้ดมันไม่ได้หมายถึงการลบนะ แต่เป็นการเพิ่มช่องว่างเข้าไปแทน นะคะ 


***สัญลักษณ์ สีชมพู ที่เราเห็น หน้าตาแปลกๆ มีคำว่า Value นั้น เราใช้เมื่อต้องการ นำค่าของตัวนั้นๆ มาเปลี่ยนแปลงตามที่เราต้องการ โดยดึงมาจากตัวมันเอง เราเรียกว่าการแทนค่า วิธีดึงมา เป็นดังรูปข้างล่างนี้ คลิกขวาที่ตัว control หรือ indicator ที่เราต้องการ
ความหมายง่ายๆ เหมือนเคสนี้ก็คือ เมื่อกด Cancel ให้แทนค่าช่องว่าง ที่ตำแหน่ง Sting2 นั่นเอง 


นี่แค่น้ำย่อย ถ้าจะเอาแบบ โหดๆ ยาวเวอร์มาก จริงๆเราจะเน้น การนำไปใช้มากกว่าเพราะ ในหนังสือไม่มี เค้าจะอธิบายแค่ว่าอะไร....ใช้ยังไงเท่านั้น 
เอาไว้แค่นี้ก่อนเนอะ เมื่ยแย้วว เดี๋ยวมาต่อใหม่นะคะ บายย 
  




วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

มารู้จัก กับ โปรแกรมเจ้าแม่โรงงานอุตสาหกรรมกัน Labview จ้าาาา


       มาาา.........เริ่มกันเล้ยย
    Labview Labview Labview อยู่ด้วยกันตั้งหลายเดือน ไม่ได้เก่งขึ้นเลย แต่ก็อยากเขียนเก็บไว้เป็นประสบการณ์อันโชกโชน เอ้ยย ฮ่าๆๆๆ  
 สำหรับใครที่สงสัยว่า Labview เป็นยังไงนะฮะ ไม่ยาก www.google.com เลยจ้าาา  มันก็ช่วยได้นะ แหม๋
นี่เลย หน้าตา Labview เผื่อใครเคยผ่านมาแล้วลืมมันไป ตอนนี้ ใช้ Labview 8.5 คัฟ  (แนะนำให้จิ้มที่รูปแล้วมันจะใหญ่ขึ้นเองฮะ)

รูป ที่ 1
โดนลูกพี่ใหญ่สั่งเขียนโปรแกรมหุ้น เค้าจะไปเล่นหุ้นกัน 

นี่เลยหน้าตาโปรแกรมที่สั่งสมประสบการณ์มานาน ได้แค่นี้แหละ ให้มันสวย ดูดี ไม่รกตา ไม่ลายตา 

This is a stock exchange of Thailand business 


รูป ที่ 2
            เห็นหน้าตา ง่ายๆแบบนี้ มันก็ไม่ได้มา ง่ายๆนะ ฮะ สำหรับมือใหม่หัดเขียน เขียนๆ เล่นๆ ไม่ได้ง่ายเลย ต้องเหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจจริงๆ แบบจังๆอ่ะ จะเข้าใจมันง่ายหน่อย มีคลิป ใน youtube เยอะแยะเลยสำหรับวิธีการเขียนเบื้องต้น เราไม่ขยันขนาดนั้น อุปกรณ์ไม่ครบ ไม่สามารถทำวิดีโอให้ชมกันได้
ก็แค่มานั่งพิมพ์ไปบ่นไปเมามันกับการพิมพ์มันเพลินดี อิอิ

              เข้าเรื่องแล้วๆ สำหรับหน้าจอข้างต้น เค้าเรียกมันว่า Front panel เป็นหน้าจอสำหรับ User interface ก็หน้าที่เค้าเอาไว้โชว์ข้อมูลนั่นแหละฮะ และ มีอีกอัน เค้าเรียกมันว่า Block Diagram อันนี้เป็นเบื้องหลังการทำงานอันแแสนลำบากของหน้าจออันสวยหรูที่ได้มานั่นเอง เอาหน้าเปล่าๆไปดูก่อนนะ

รูป ที่ 3
       หน้าต่างทั้งสองอันนี้ มันมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มีหน้าต่าง Control ที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ถ้าให้อธิบายหมดคงยาว ซื้อหนังสือมาอ่านเลยดีกว่าเป๊ะกว่าด้วย สำหรับใครที่สนใจนะฮะ และใครที่กำลังทำงานด้านนี้ อาจจะได้ใช้งานมัน ลองศึกษาดูก็ดีนะจ๊ะ

      คือตัว Labview เนี่ยมันเป็นโปรแกรมสำหรับ โปรแกรมเมอร์ ที่ต้องการจะออกแบบแอพลิเคชั่นต่างๆ ในโรงงานอุตสาหกรรมมีใช้กันถ้วนหน้าจ้า มันทำได้หลากหลายขึ้นกับว่าจะทำอะไร และใช้งานมันเก่งแค่ไหน สำหรับการควบคุมงานในโรงงาน ก็ใช้มันControl ได้มากมาย เท่าที่เห็นที่ออฟฟิตก็ใช้เจ้าตัวนี้แหละในการเขียนคำสั่ง ต่างๆ สามารถใช้ร่วมกับ PLC ก็ได้ ใช้ร่วมกับ อุปกรณ์ DAQ ก็ได้ ข้อมูลเพิ่มเติม GOOGLE โล้ดด ไม่รุ้สิมันเป็นรายละเอียดยิบย่อย เดี๋ยวจะขี้เกียยจอ่านกัน ฮ่าๆๆ (ขี้เกียจพิมพ์)

     มันเป็นซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมเพื่อการวัด วิเคราะห์ ทดสอบ และควบคุมแบบอัตโนมัติ มันน่าสนใจมากเลย แต่ต้องให้ความสำคัญกับมันอย่างจริงจังและอย่าท้อ บอกเลย ว่าอย่าท้อ

โปรแกรมที่เราเขียนตอนนี้ เขียนโปรแกรมศึกษาข้อมูลของหุ้น ลูกพี่ใหญ่จะซื้อหุ้น แต่คงบอกรายละเอียดได้ไม่มากฮะ  ความลับ (มั้ง) แต่จะให้โปรแกรมไปดูว่าเค้าดูกันยังไง

     ก่อนอื่นต้องบอกเลย เราใช้ฐานข้อมูล (Database) เป็น Microsoft Access เพื่อใช้บันทึกข้อมูลต่างๆที่รับเข้ามา และข้อมูลตัวนี้จะต้องเป็นข้อมูลชุดเดียวกันตลอดเพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขเท่านั้น  นี่ก็เป็นข้อมูลของตลาดหุ้น หลังจากหุ้นปิดไปแล้ว ย้อนหลังไปหลายวัน หลายเดือน หลายปีก็ได้ เจ้า DB สามารถเก็บข้อมูลได้เยอะมาก


 รูป ที่ 4ในฐานข้อมูล จ้า
       

 ใน Labview มีฟังก์ชันสำหรับเก็บข้อมูลใน DB ได้ด้วย มาดูกัน ว่าเจ้านี่มันทำอะไรได้บ้าง
 รูป ที่ 5 นี่เป็นข้อมูลดิบๆๆๆ จากคลังที่โหลด มาเพื่อจะแยกไปแบ่งเป็นประเภทๆ ไป แบ่งเป็นคอลัมน์นั่นแหละ อิอิ

รูป ที่ 6 เจ้านี่เป็นข้อมูลหลังจากได้ถูกแบ่งแยกมาแล้ว ก็ใช้ Labview แหละฮะในการแบ่งคอลัมน์ให้มัน
รูปข้างล่างเป็นเบื้องหลัง  รูปข้างบนเป็นหน้าจอแสดงผลฮะ


แล้วก็มีอีกแบบนึง  จะดึงเฉพาะข้อมูลที่ต้องการ ไม่ต้องการเอาข้อมูลทั้งหมด เอาแค่ คอลัมน์เดียว แบบไม่ซ้ำ ถึงแม้ข้อมูลนั้นจะมีข้อมูลที่ซำกันมาก่อนก็ตาม ดังรูปข้างต้น ข้อมูลใน DB มีค่าซ้ำกันคือ ค่าของ 2S เพียงแต่วันที่ไม่ซ้ำกันเท่านั้น เราจะดึงเฉพาะค่า 2S ออกมาค่าเดียวแบบไม่ซ้ำ

รูป ที่ 7 นี่เลยการดึงข้อมูลมาใช้งานแบบไม่ซ้ำค่าเดิมจ้า
แล้วก็มีแบบ ดึงข้อมูลจาก DB โดยใช้ฟังก์ชั่น DB ตัวนี้ต้องลง Toolkit เพิ่มเติมนะจ๊ะ  ซึ่งข้อมูลที่ออกมาก็จะออกมาตามค่าที่เรากำหนดไว้ เราเลือกดึงค่าของข้อมูลบางตัวในตำแหน่ง SIMBOL_ (ในกรอบสี่เหลี่ยมสีชมพูนั่นไง พอดีไม่ทันได้ทำวงกลมให้) ข้อมูลที่เราดึงออกมาก็จะออก เฉพาะข้อมูลในแถวเดียวกับตำแหน่งที่เราดึงมานั่นเอง เดี่ยวอธิบายไว้ใต้รูปนะ คือหน้านี้เราเขียนโปรแกรมไว้เยอะและซับซ้อนมันจึงยากที่จะรันเป็นจอแสดงผลลำบากนิดหน่อย จินตนาการเอาเองเน้อ (งงดิ) อ่านต่อใต้รูปจ้า

รูป ที่ 8 ถ้าจะดึงข้อมูลของ 2S จากตำแหน่ง SIMBOL_ เราจะได้ข้อมูลทั้งแถวในค่า 2S ดูตามรูปที่ 6 เราจะได้แถวทั้งหมดของ 2S ออกมา ซึ่งมันเป็นวิธีที่ง่าย สำหรับใครที่ต้องการ ดึงข้อมูล ณ ตำแหน่งใดๆ หรือเราจะไม่เอาทั้งแถวก็ทำได้ ขึ้นกับว่าเราจะเขียน ภาษ SQL ได้แค่ไหน อิอิ ในกรอบ สีชมพู เป็นภาษา SQL เขียนว่า  (SELECT* FROM volumavg where SIMBOL_=') นี่ก็จะได้ข้อมูลทั้งแถวเลย (SELECT* คือดึงทั้งหมด ณ ตำแหน่งนั้นๆ) 

ปล.  ที่ไม่ได้ทำให้รูปมันชัดๆ ไม่ใช่อะไร แค่จะเอามาเป็นตัวอย่างในการอธบายเฉยๆ ว่ามันทำอะไรได้บ้าง เด๊่ยวจะมาแก้ไขเพิ่มเติมให้จ้า สำหรับใครที่สนใจมันจริงๆอยากจะได้รายละเอียดมากกว่านี้ก็ทิ้ง E-Mail ไว้ ถามข้อมูลไว้ได้จ้า บอกไว้ก่อนไม่ได้เก่งมากเลย เพิ่งเริ่มเขียนเหมือนกัน อิอิ
   



อะไรเอ่่ยอยู่ในบล๊อก

็บล็อกแบบนี้มีอะไรเอ่ย
ตอนแรกๆก็เขียนอะไรไม่ถูกพอเริ่มจับ เริ่มเขียนไปเรื่อยๆเท่านั้นแหละ เรื่องราวที่นึกไม่ออกมาก่อน มาก็แว๊บบขึ้นมาให้เขีียนเอง
บล็อกก็เหมือนสมุดบันทึกออนไลน์ มีอะไร เจออะไรมา ก็สามารถบันทึกเอาไวได้ หรืออยากจะแชร์ข้อมูลให้คนอื่นได้อา่นก็ได้
ที่สำคัญนะ บล็อกเกอร์มือดีๆ สามารถหารายได้จากการเขียนยนบล็อกได้ ด้วยนะ
เคยรู้มาบ้างรึป่าว ถ้าเขียนบล็อก บ่อยๆแล้วมมีคนมาอ่านเยอะๆ เราสามารถขอโฆษณาจาก google ได้ด้วยนะ
รายละเอียดตอนนี้ยังไม่มีไม่มาก แล้วจะมาอัพเดตให้นะ

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

นิทานน้อย สอนใจ.....คาดไม่ถึง.....(ไม่ใช่ว่าเข็มขัดสั้นนะ)





 คาดไมถึง ?.........!

หนูตัวหนึ่ง แอบมอง รอดรอยแตกของกำแพง

เพื่อดูว่า ... ชาวนา กับ ภรรยา แกะห่ออะไร ?

" จะเป็นอาหารอะไรหนอ ? เจ้าหนูสงสัย !!! "

มันแทบล้มทั้งยืน เมื่อรู้ว่า สิ่งนั้นคือ ... กับดักหนู ...

มันจึงวิ่งหัวซุกหัวซุน ไปที่ทุ่งนา แล้วส่งเสียงร้องเตือน

" มีกับดักหนูอยู่ในบ้าน ! " " มีกับดักหนูอยู่ในบ้าน ! "



แม่ไก่ร้องกุ๊กๆ และ คุ้ยเขี่ยไปมา มันผงกหัวขึ้นแล้ว พูดว่า ...

" นี่คงเป็นเรื่องเศร้าสำหรับเธอ แต่มันไม่มีผลอะไรกับฉันหรอกนะ อย่ามากวนใจกันเลย "..



เจ้าหนูรีบวิ่งไปหาหมูแล้วบอกมันว่า ... " มีกับดักหนูอยู่ในบ้าน ! มีกับดักหนูอยู่ในบ้าน ! "

หมูเห็นอกเห็นใจแต่ ก็พูดว่า ...

" ฉันขออภัยนะเจ้าหนู แต่ฉันคงทำได้แค่สวดมนต์เท่านั้น ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันจะสวดมนต์ให้เธอด้วย "


 เจ้าหนูรีบวิ่งไปหาวัว และพูดว่า ... " มีกับดักหนูอยู่ในบ้าน ! " " มีกับดักหนูอยู่ในบ้าน ! "

วัวตอบว่า ... " โธ่ ! คุณหนู ฉันก็เสียใจด้วยนะ แต่มันไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับฉันนี่ "


ดังนั้น ... เจ้าหนูจึงวิ่งกลับบ้าน นอนลงอย่างเศร้าใจเหลือเกิน ที่จะต้องเผชิญหน้ากับกับดักหนูเพียงลำพัง

กลางดึกคืนนั้น เสียงหนึ่งดังกึกก้องไปทั้งบ้าน ฟังเหมือนเสียงกับดักหนู ได้จับเหยื่อของมันได้แล้ว

ภรรยาของชาวนา รีบรุดไปดูว่า อะไรที่ถูกจับ ?

ในความมืดนั้น เธอมองไม่เห็นว่า มีงูพิษ ถูกกับดักนั้นหนีบหางเอาไว้

งูกัดภรรยาของชาวนา ชาวนาจึงรีบพาเธอ ไปส่งโรงพยาบาล ตอนกลับบ้านพิษไข้ยังสูงอยู่

ใครๆก็รู้ว่า เราต้องพยาบาลคนป่วย ด้วย ... ซุปไก่

ดังนั้น ชาวนาจึงหยิบขวาน เดินไปที่ ทุ่งเพื่อหาวัตถุดิบของซุป

ทานซุปไก่แล้ว แต่อาการป่วยของภรรยาก็ยังไม่ดีขึ้น

เพื่อนฝูง และ เพื่อนบ้าน ต่างมาเยี่ยมดูใจ

เมื่อแขกเหรื่อมาบ้าน จึงต้อง หาอาหารมาเลี้ยงพวกเขา

ชาวนา จึงฆ่า ... หมูซะ

ภรรยาก็ยังไม่หายป่วย และ ในที่สุดได้ ... ตายลง

ผู้คนมากมายต่างมางานศพของเธอ ชาวนาจึงต้องฆ่าวัว เพื่อเอาเนื้อมาเลี้ยงแขก

เจ้าหนู มองรอด รอยแตกของกำแพง ด้วย ... ความเสียใจสุดแสน


* คราวหน้าหากคุณรู้ว่า ... ใครสักคนกำลังเผชิญกับปัญหา และคิดว่าไม่เกี่ยวกับคุณสักหน่อย

จำไว้นะว่า ... เมื่อพวกเราคนใดคนหนึ่งถูกคุกคาม เราทุกคนล้วนตกอยู่ในอันตราย !

เพราะ ... ทุกคนล้วนเกี่ยวพันกัน อยู่ในหนทางการเดินทาง ที่เรียกว่า " ชีวิต "

เราควรต้องคอยดูแลกันและกัน และพยายามให้กำลังใจอีกคนเข้าไว้

จงบอกต่อข้อความนี้ ให้แก่ คนที่เคยช่วยคุณ

และบอกให้เขารู้ว่า เขาสำคัญต่อคุณขนาดไหน ?

จำไว้เถอะ เราแต่ละคน ก็คือ ด้ายเส้นสำคัญบนผืนพรมของผู้อื่น

นั่นเป็นเหตุผล ที่ชีวิตของเราถูกถักทอเข้าไว้ด้วยกันไงล่ะ




Cr. เครดิตนี้ ไม่รู้จะยกให้ใคร เค้าส่งมาให้ทางไลน์จ้าา ก็ขอขอบคุณไว้ตรงนี้นะคะสำหรับผู้ที่แต่งบทความนี้มาเผยแพร่ให้แก่ปุถชน ในช่วงที่มีรอยแตกแยกของสัมคม ขอบคุณมากๆค่ะ

ทำไมนะ ทำไม ตอนทำงานถึงน่าเบื่อจัง :(


สวัสดีค่ะ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งของกาารใช้ชีวิตประจำวันแบบซ้ำไปซ้ำมา ตอนนี้อยู่ในเวลาทำงาน ฮ่าๆๆ แต่คิดไรไม่ออก รู้สึกไม่สดชื่นกับการทำงานซักเท่าไหร่เลย ก็เลยมานั่งเขียนอะไรเพลินแก้เซ็งดูบ้าง

          ที่มาของโพสนี้คือ......วันนี้ขี้เกียจทำงาน  :3
  
           สงสัยว่าปกติทำไมนะทำไมเวลาทำงานคนเรามักจะง่วงนอน รู้สึกไม่สดชืนเอาซะเลย ไม่เห็นเหมือนตอนไปเที่ยว หรือตอนดูหนัง ฟังเพลง บลาๆๆ ก็ใช่น่ะสิ เพราะการทำงานมันไม่ได้สนุกอย่างที่คิดไงล่ะ  การทำงานมันต้องใช้สมอง ใช้สมาธิ ใช้ความคิด และบางคนอาจตกอยู่ในสภาวะที่กดดัน หรือบางคนอาจเจอปัญหางาน ค้าง งานเยอะ ทำงานไม่ได้ คิดไรไม่ออก (ตอนนี้น้ำกำลังประสบเหตุการณ์นี้อยู่ ฮ่าๆๆ ปวดหัวๆ)  มากมายหลายปัญหาตามแต่ละคนจะประสบ เป็นสาเหตุให้การทำงานเป็นอะไรที่น่าเบื่อ (สำหรับบางคน)
 
             จะทำยังไงดีน้า ให้การทำงานกลายเป็นเรื่องน่าสนุก  ยากล่ะสิ ^_^ มันก็ยากจริงๆนะ
              เอาเป็นว่าถ้าได้อ่านโพสนี้ก็ขอให้โพสนี้เป็นแนวทางดีๆให้แก่ผู้อ่านละกันนะคะ ไม่มากก็น้อยหล่ะโน๊ะ อิอิ

                 ก่อนอื่นเลย เราถามใจตัวเองดู ว่า รักงานที่ทำอยู่หรือไม่? ถ้าคำตอบ คือ ใช่ อ่านบรรทัดถัดไปแต่ถ้า ไม่ ต้องเตรียมตัว เพื่อหางานใหม่ เพราะคุณจะฝืนมันได้ อีกนานแค่ไหนกันเชียว จริงมั๊ย ^_^

               


         ถ้าคุณชอบในงานนี้ ขอให้คุณตั้งใจ และพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ปัญหาที่เราพบอยู่มากมายที่กล่าวมมานั้น มันไม่ใช่เพราะงานของเราเลย มันมีสาเหตมาจากตัวเองเรามากกว่า หน้าที่ของเราคือกรทำงาน เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด จริงมั๊ย ^_^
การที่เรารู้สึกเบื่อ ง่วง ขี้เกียจจะทำงาน อาจมีสาเหตุมาจากร่างกายของเรา เครียด มากไป ทานอาหารไม่เพียงพอ ขับถ่ายไม่เป็นปกติ ออกกำลังกายไม่เพียงพอ
           



          ร่างกายของคนเราหากได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อวัน เป็นที่รู้กันดีว่า ร่างกายจะไม่แข็งแรง ก่อให้เกิดโรคซึมเศร้าได้  ที่สำคัญอาหารเช้า คนส่วนใหญ่มักจะละเลยมันไป ทั้งๆที่ จริงๆแล้วอาหารเช้าเป็นอาหารหลักในการดำรงชีวิต สารอาหรที่ได้รับมาจะไปเลี้ยงร่างกาย เลี้ยงสมอง และควรได้รับในปริมาณที่เพียงพอ  (มากไปเดี๋ยวง่วงนอนนะ)


                      อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ ที่ทำให้ร่างกายไม่สดชื่น  คือการนอน ปกติแล้ววัยทำงานจะต้องตื่นกันแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว มารอรถรับส่งบ้าง  รอรถเมล์บ้าง ออกสายรถติดบ้าง ทำให้มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆต้องตื่นกันแต่เช้าาา แต่วัยอย่างเราๆนั้น ไม่อยากท่จะนอนเร็วๆกันนักหรอก เพราะช่วงนี้กระแสเฟสบุ๊คมันแร๊งแรงง  กว่าจะกลับถีงหอก็ปาไปทุ่มสองทุมบ้าง กลับมาก็นั่งเช็คสเตตัส ดูหนัง อาบน้ำ กินข้าว บลาๆๆ   อ้าา  แต่งหน้าสำหรับสาวๆนี่สำคัญ ใช้เวลานานที่สุดเลย อิอิ   เล่นเกมส์ คุยโทรศัพท์ อ่านหนังสือ เฮ้ยยย ดูไร้สาระ ฮ่าๆๆๆ แต่มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมานะ ฮ่าๆๆ  ก็สรุปสั้นๆเลยละกันค่ะ แบ่งเวลาให้ถูกนะ จะทำอะไรก็ทำไป แต่ไม่ควรเอาเวลาที่ทำเรื่องสนุกมาเบียดเบียนเวลานอนก็ของเรานะ ร่างกายเราควรได้นอนวันละ อย่างน้อยนะ 6 ชั่วโมง นี่ถือว่าน้อยแล้วนะ ต่ำกว่านี้ รับรองได้ว่าพรุ่งนี้เช้าไม่อยากจะตื่นไปทำงานแน่นอน    
                       เพราะร่างกายเราควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอต่อวัน จะช่วยให้จิตใจ อารมณ์ ของเราคงนิ่ง มีสติ มีสมาธิมากขึ้น พร้อมที่จะรับมือกับวันใหม่

ดื่มนมสดก่อนนอนช่วยให้หลับสบายมากขึ้นะจ๊ะ

                       ขับถ่ายไม่สะดวก นี่ก็ปัญหาใหญ่ของสาวๆ ท้องผูกเมื่อไหร่ พุงออกเมื่อนั้นนะจ๊ะสาวๆ
   ข้อสำคัญในการทานใยอาหารให้เพียงพอ ดื่มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ ออกกำลายสม่ำเสมอ สำคัญที่สุด ปวดท้องเมื่อไหร่รีบเข้าทันที อย่าอั้นไว้ เพราะการอั้นจะทำให้ท้องผูกมากขึ้นนะจ๊ะ






                 ขอแนะนำเพจจ้า https://www.facebook.com/restroomstory?fref=ts  เพจถ่ายยากเรื่องใหญเค้ามีสาระดีๆเยอะเลยนะคะ ลองอ่านๆดูกันน้าาา


   

ทานผัก ผลไม้ และใยอหารที่เพียงพอนะจ๊ะ
ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว หรือ 1.5 L
ดื่นนมสดก่อนนอนทุกวัน
อาหารที่ทาน ลองเสียเวลาอ่านฉลกซักนิดนึง
ดูปริมาณ แคลอรี่ที่จะได้รับ
ดูปริมาณน้ำตามและไขมัน เปรียบเทียบกับสินค้าตัวอื่นว่าตัวชนิดเดียวกัน แต่ยี่ห้อไหนปริมาณน้ำตาลไขมันน้อยกว่าก็เลือกซื้อยีห้อนั้นๆนะจ๊ะ

เดี๋ยวจะอัพเดตกาารเลือกซื้ออาหารแบบไม่อ้วนครั้งต่อไปจ้าา



                        จริงๆแล้วเรื่องราวเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ๆกันอยู่แล้วแต่ก็ยังทำกันไม่ได้โน๊ะ

        เรามาพูดถึงเรื่องจิตใจในการทำงานกันดีกว่า  หากว่าคุณมีปัญหากับงานที่ทำอยู่ หากว่าคุณมีปัญหากับสถานที่ทำงานที่ทำอยู่ หากว่าคุณมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานที่ทำอยู่ ขอให้คุณนึกถึงคำๆนี้
.............."สติ"!!!  แน่นอนว่าคุณมีสิ่งนี้ ชีวิตคุณจะสุข สงบมากขึ้น เยอะ!!!  เลยที่เดียว ไม่เชื่อ ลองคิดตามสิคะ

1.  ทำงานไม่ได้ ทำงานไม่ทัน คิดไรไม่ออก .... ลองนั่งนิ่งๆซักพัก หายใจเข้าลึกๆ เดินไปเดินมา ผ่อนคลายซักพัก แต่ไม่ใช่ว่า มานั่งเล่นเฟสนะ หนักกว่าเดิมอีก เพราะเดี๋ยวก็ไปเจอโพสดราม่าๆ จิตใจล่องลอยหนักเลย!!  อ่ะ เราก็ค่อยๆขยับแขน ขา บีบนวดในส่วนที่รู้สึกเมื่อยล้าแล้วเรียกสติกลับมา ค่อยๆนึก งานที่กำลังจะทำ เริ่มจากตรงไหน จะไปไหน จะทำอะไร ต้องการอะไร (อันนี้ความรุ้สึกส่วนตัวของน้ำ เพราะน้ำต้องนั่งเขียนโปรแกรมต้องมีสติเยอะๆเลยทีเดียวฮ่าๆๆ)  เาอเป็นว่าค่อยๆคิด ค่อยๆทำ ทำอะไรไม่ได้ ถาม ถามผู้รู้ อย่าปล่อยคำถามค้างไว้ งานมันจะยิ่งค้างนาน ไม่เสร็จซักที

2. ปัญหากับเพื่อนร่วมงาน .... โอ้วไม่นะ ปัญหาชีวิตหลักเลยทีเดียว เป็นเป็นปัญหาที่ทำให้จิตใจเราย่ำแย่ได้เลยทีเดียว  อาจยากสำหรับบางคนนะ ง่ายๆเลย ไม่ต้องไม่สนใจ ถ้าหาก วันนึง เค้าพูดจากระทบกระทั่งเรา อย่าเชียว....อย่าไปเถียงกลับ.....เก็บมันเอาไว้ในใจ โมโหได้ แต่อย่าแสดงออก เพราะเค้าพูดอะไรก็พูดไปถ้าเราเก็บมาคิด เราเองนี่แหละจะเครียดตามคำพูดเค้า ใช้สติสิ พยามยามคิดให้ได้ว่า ถ้ามีปัญหาไปแล้ว อะไรจะตามมา การทำงานไง มันจะไม่มีความสุขหรอก ถ้าเกิดทะเลาะกันก็ร่วมงานกันไม่ได้ บางอย่างเราต้องพึ่งพาอาศัยกันแน่นอนอยู่แล้ว สั้นๆ ง่ายๆ ให้มันจบที่เรา พอ!!!


3. ปัญหามาทำงานสาย .....แน่นอน บ่อยๆโดนหักตังค์แน่ๆ ฮ่าๆๆ คงไม่อยากโดนแน่นอน ก็ไม่อยากอีกแหละ ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น อย่านอนดึก อย่าตื่นสาย อย่าเสียเวลากับอะไรที่ไม่จำเป็นให้มากนัก ถ้าวันไหน นอนหลับสบายไม่อยากจะตื่น ก็นึกแบบนี้ "จะนอนต่อไปทำไม ยังไงมันก็ต้องตื่น" เรียกสติกลับมาปลุกเรา ฮ่่าๆๆ ก็ลองนึกดูสิคะ ยิ่งนอนต่อ ยิ่งสาย ไปไม่ทัน ก็ใช่นะ มันเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆก่อนจะตื่น  แล้วยังไงล่ะ  แต่งตัวไม่ทัน ไม่สวยนะสาวๆ มาทำงานไม่ทัน สาย โดนหักตังค์ไม่พอ โดนลูกพี่บ่นอีก เครียดเลยไง วันนั้นจะเป็นวันที่ลนมาก สมองสังการไม่ทันละ ลนลานไปซะหมด ที่สำคัญ ง่วงด้วยอ่ะ มันยังคิดถึงที่นอนอยู่ ใช่มั๊ยล่ะ อยากจะนอนต่อ ฮ่าๆๆ สู้ๆนะหนุ่มๆสาวๆวัยทำงาน

                        ไม่มีอะไรยากสำหรับเราหรอกขอแค่ให้มีสติ มีสมาธิ แค่เนั้นพอ เอิ่มมม ความรู้ด้วย สำคัญเช่นกันนะจ๊ะ ถ้าไม่รู้ก็ขอให้มีความกล้า  กล้าที่จะถาม กล้าที่จะรู้ อย่าเป็นน้ำที่เต็มแก้ว หรือล้นเอ่อ ไม่ดีหรอก เพราะชีวิตคุณจะไม่มีทางได้พบเจอสิ่งใหม่ๆเลย.


SEE YOU LATER :")

รายรับรายจ่ายสำคัญไฉน......เคยฉงนบ้างไหม :")


                      นาทีนี้ เรื่องเงินๆทองเป็นอะไรที่สำคัญที่สุดในชีวิตของมนุษย์เงินเดือนไปเสียแล้ว
แต่เอ๊ะ!!  ทำไมนะ ทำไม มีเงินเดือนทุกเดือน แต่ใช้ไม่พอนะ ไม่เข้าใจจริงๆ หลายคนคงเคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาแล้วนะคะ
                  ตามหัวข้อโพสเลย ชั่วโมงนี้เรามาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่ออนาคตทางการเงินของเรากันดีกว่าค่ะ "ใช้จ่ายอย่างไรให้คุ้มค่า ออมอย่างไรให้พอใช้"   ตอนนี้น้ำกำลังเริ่มทำบัญชี รายรับ รายจ่ายอยู่ค่ะ เพิ่งเริ่มได้เดือนเดียวเอง มันก็ยากอยู่นะสำหรับมือใหม่ เชื่อว่าหลายๆคนก็เคยทำมาแล้ว แต่ไม่ได้ผล เพราะการบันทึกต้องบันทึกทุกวัน ทุกครั้งที่มีการใช้จ่าย หากใครไม่ละเอียดเท่าไหร่ เงินก็อาจจะหายไปโดยไม่รู้ตัวนะจ๊ะ

                    วิธีการง่ายๆเลย ทำบัญชีรายรับ รายจ่ายเก็บไว้ที่โทรศัพท์ ทำโปรแกรมจาก Excel นี่ง่ายๆเลย เมื่อมีโปรแกรมแล้ว ก็เก็บไฟล์ไว้ที่โทรศัพท์ เมื่อไหร่ที่เราใช้จ่ายอะไรๆไป เราก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วบันทึกมันซะ ง่ายๆแค่นี้เอง หรือไม่ หากใครไม่สะดวกจะเก็บไฟล์ไว้ในโทรศัพท์....... นี่เลยเรามาเก็บไลฟ์ในที่โน็ตบุ๊คกันก็ได้ค่ะ เพราะวัยเรา มันเป็นวัยทำงานอยู่แล้ว แน่นอนว่าหลายๆคนจะต้องใช้คอมหรือโน๊ตบุ๊คกันทั้งนั้น จริงมั๊ยคะ เราเปิดมันทุกวันแล้วแล้วนี่นา ดังนั้นเราก็เก็บทำไฟล์เช่นเดียวกันมาเก็บไปที่ Desktop ไปซะเลย ง่ายต่อการใช้งานด้วย

                     ที่สำคัญอย่าลืมนะคะ เก็บไฟล์อย่างไรให้ปลอดภัย มีอีกวิธีนึง เรามี google drive
เป็นเหมือนดรอปบ๊อกซ์ ไว้เก็บข้อมูลไว้ไดรฟ์กลางของ google  โดยที่ไม่ว่าเราจะมีคอมตัวเจ๋งของเราในเวลนั้นหรือไม่ เพียงแค่เรามี google drive เราก็สามารถดึงข้อมูลตัวโปรดออกมมาใช้งานได้ในทันที ไม่ว่าเราจะอยู่ส่วนไหนของโลกก็ตาม ฮ่าๆๆ สะดวกดีใช่มั๊ยล่ะ  ถ้าใครยังใช้งานไม่เป็น สอบถามได้จร้าหรือจะลองลุยเดี่ยวเลยก็ได้ไม่ยากเลย เรากลับมาเรื่องของเรากันดีกว่า เอาเป็นว่า เราสามารถมีบันทึกนี้ใกล้มือ ได้ในหลายกรณีเลยจริงมั๊ย งั้นน้ำจะขอแนะนำ บันทึกรายรับรายจ่ายที่ดีที่สุดของเรานี่เลย.......  
K-expert saving memo ของธนาคารกสิกรไทยจร้าา ดาวน์โหลดได้ตามลิ้งนี้เลยน้า หรือจะใช้แบบออนไลน์ก็ได้นะสะดวกดี รูปแบบน่ารักมากๆเลย            
https://k-expertmember.askkbank.com/Pages/K-SavingMemo_Program.aspx
K-expert saving memo online
                            น่าสนใจดีนะ แบบออนไลน์เลยสะดวกดีสำหรับมนุษย์อินเตอร์เน็ต ฮ่าๆๆ
    บันทึกนี้จะช่วยให้เรารุ็สถานะการเงินของตัวเองว่าตอนนี้เราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง แล้วเงินของเรามันเหลือเท่าไหร่กัน เราสามารถวางแผนการใช้เงินของเราได้ด้วย ว่าเดือนนี้เราจะต้องจ่ายอะไรบ้าง จ่ายเท่าไหร่ สำคัญหรือไม่ ต้องออมเงินไว้เท่าไหร่ เที่ยวเท่าไหร่ ให้ครอบครัวเท่าไหร่ บลาๆๆๆ แผนงานนี้ของกสิกร มีให้เราทุกอย่างจร้า เหลือแค่กรอกตัวเลยลงไปเท่านั้นเอง
                           เห็นมั๊ยมันไม่ยากเลยสำหรับคนที่ตั้งใจจะบันทึกมันจริงๆตอนนี้ก็มีโปรแกรมพร้อมเลย เหลือแต่กรอกข้อมูลลงไปเท่านั้น สบายมาก :"))
                       
                           มันสำคัญยังไง....มาดูกัน เข้าประเด็นละ

                ช่วยทบทวน  ทบทวนว่าเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง จำเป็นหรือไม่ ใช่จ่ายแต่ละอย่างจ่ายไปเท่าไหร่แล้ว เดือนี้เหลือเงินเท่าไหร่

                ช่วยเก็บเงิน   เมื่อเรารู้รายจ่ายประวันเดือนของเรา เราก็จะรู้ว่าควรระมัดระวังในการใช้เงินมากน้อยแค่           ไหน  เราสามารถนำเงินเก็บตัวนี้มาลงทุนทำอะไรซํกอย่างที่มันสามาถงอกเงยขึ้นมาได้อย่างเช่นการเล่นหุ้นนะจ๊ะ (แต่ต้องเล่นเป้นจริงๆนะ) หรือทำธุรกิจส่วนตัวตามความฝันได้เล้ยยย

                ช่วยวางแผนชีวิต ช่วยวางแผนในการใช้เงินไงล่ะ มีตารางบอกรายละเอียดว่าเดือนนี้จะต้องจ่ายอะไรบ้าง เราก็กำหนดมันเอาไว้เลยแล้วใช้ไม่ให้เกินค่าที่กำหนดไว้ อย่ากำหนกมากเกินไปล่ะ เอาพอดีๆ เพียงพอนะจ๊ะ อย่างค่าโทรศัพท์งี้ เดือนละ 500 ก็ว่าไป ถ้าใช้เกิน ติดลบละนะ เราก็จะรู้ว่าเดือนนี้เราใช้ค่าโทรศัพท์ไปเท่าไหร่ ค่าเที่ยว ซื้อของใช้ส่วนตัว กำหนดเป็นตัวเลขไว้เลยว่าไม่ควรเกินเท่าไหร่

สาระดีๆอยู่ที่ไหน....ที่นี่เลย (โฆษณาให้เค้าซะงั้น)
https://k-expertmember.askkbank.com/Article/Pages/A1_013.aspx

                           ลองทำดูนะคะสาวๆหนุ่มๆวัยทำงานทั้งหลาย เด็กๆก็ทำได้นะ อย่าขี้เกียจเลยชีวิตเราอยู่แบบสบายๆมาเยอะแล้ว ลองเสียเวลาครั้งละไม่กี่นาทีมาบันทึกข้อมูลเล็กๆน้อยๆ แต่สำคัญ ซักหน่อยน่าจะดีนะคัฟฟฟ

บ๊ายบายเจอกันโพสหน้าจ้า :") )

   

มารน้อย ขโมยความสุข :")




ความสุขถูกซ่อนไว้ที่ไหน....

    มีมารน้อย 3 ตน แอบมาขโมยความสุขของมนุษย์เอาไป แล้วก็ปรึกษากันว่าจะเอาไปซ่อนที่ไหนดี
   
  มารน้อยตนที่ 1 ก็ว่า.
       ควรเอาไปซ่อนที่ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก

  มารน้อยตนที่ 2 ว่า..
       เพื่อนเอ๋ย มนุษย์นั้น ไม่กลัวความสูง แต่กลัวหายใจไม่ออก เพราะสังเกตได้ว่า ดำน้ำได้นิดเดียวก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมาแล้ว เพราะกลัวหายใจไม่ออก แต่บนภูเขาอากาศดี มนุษย์ชอบไปเที่ยวภูเขา เอาไปซ่อนไว้ใต้บาดาลดีกว่า

  มารน้อยตนที่ 3 แย้งว่า..
       อย่าเลยเพื่อนเอ๋ย มนุษย์มันเก่ง สร้างเครื่องมือหาของในทะเล ในอากาศได้ เดี๋ยวมันก็หาเจอแต่สังเกตได้ว่า นัยน์ตามนุษย์มองไปข้างนอก หูก็ชอบฟังเสียงข้างนอก ชอบไปเที่ยวข้างนอก
เราควรแอบเอาไปซ่อนไว้ในใจมันดีกว่า มนุษย์หาไม่เจอแน่ๆ เพราะว่ามนุษย์ชอบหาความผิดของคนอื่น ไม่ชอบขัดใจตัวเอง ไม่ชอบดูจิตใจของตัวเอง
   
      มารน้อยทั้ง 3 ตน ก็ตกลงความเห็นเป็นเช่นเดียวกัน
      ตั้งแต่นั้นมา มารน้อยก็เอาความสุขของมนุษย์มาซ่อนไว้ที่ใจ
      มนุษย์ผู้โง่เขลาจึงออกไปหาความสุขที่อื่น ที่ภูเขา ที่ชายทะเล ที่คลับ ที่ร้องเพลง จึงหาความสุขไม่พบ ต้องออกไปข้างนอกหาความสุขในที่ผิด ๆ ตลอดมา
       อนึ่งคนที่ไปเที่ยวเธคเที่ยวคลับกินเหล้า เพราะว่าเขามีทุกข์ จึงต้องออกไปหาความสุขมากลบเกลื่อน มาเฉลี่ยเพื่อให้ทุกข์นั้นน้อยลง
       แต่พอเมาแล้วกลับบ้าน หายเมาตื่นเช้ามา ทุกข์นั้นก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม
      โดยหารู้ไม่ว่า ความสุขที่เฝ้าติดตามเฝ้าหา อยู่ที่ใจตัวเองนั่นเอง ใยต้องออกไปหาความสุขที่อื่น
       ต่อให้หาเท่าไหร่ แต่ใจยังร้อนรุ่ม ไม่สงบ ก็หาสุขนั้นไม่พบ



Cr.  เครดิตนี้ ไม่รู้จะให้ใคร เค้าส่งให้ผ่ายทางไลน์ แต่ก็ขอขอบคุณผู้แต่ง ที่เสนอเรื่องดีแบบนี้ให้ทุกคนได้อ่านกัน คัฟ